มีน้องๆหลายคนสนใจอยากเป็น ข้าราชการครู เส้นทางตั้งแต่เริ่มต้นในการ เตรียมสอบครูผู้ช่วยจนเข้าสู่สนาม สอบครูผู้ช่วย และได้รับราชการดั่งใจหวังเป็นอย่างไร เราต้องทำยังไงถึงจะประสบความสำเร็จกับการ สอบครูผู้ช่วย วันนี้ทางบ้านของครู MR.KRON จะเล่าให้ฟังเพื่อช่วยให้น้องๆ ที่กำลังสนใจอยากจะเป็นแม่พิมพ์ของชาติอย่างตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ได้เริ่มต้นจนไปถึงเป้าหมาย และ การติวสอบครูผู้ช่วย จะเป็นคำตอบไหม มีวิธีอื่นไหมที่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อ สมัครติวครูผู้ช่วย แล้วได้บรรจุ
ทำไมถึงอยากเป็น ครูผู้ช่วย…?
อาชีพครู เป็นหนึ่งในอาชีพ ข้าราชราชการ ที่มีสวัสดิการต่างๆมากมาย ช่วยให้ผู้ที่เป็นข้าราชการครู ไม่ต้องกังวลใจและมีกำลังใจมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่การสอนได้อย่างเป็นประสิทธิภาพ ซึ่งสวัสดิการที่น่าสนใจ อาทิเช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตร ค่ารักษาพยาบาลบิดามารดา เป็นต้น และเนื่องจากการทำงานในระบบข้าราชการถึงเวลาสิ้นเดือนก็จะได้รับเงินเดือนตรงตามเวลา ทำให้ผู้ที่ประกอบอาชีพนี้เกิดความสบายใจ เสี่ยงที่จะไม่ได้รับรายได้น้อยกว่าอาชีพของเอกชน ถึงแม้จะไม่ได้รับเงินเดือนเยอะเท่ากับสายอาชีพของเอกชน แต่อาชีพครูก็จะมีการเลื่อนเงินเดือนทุกปี และรับเงินเดือนไปจนวันตายนั่นเอง แถมยังมีวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่งอีกมากมาย
ข้าราชการครูมีวันหยุด เสาร์-อาทิตย์(ยกเว้น ผอ.สั่งให้มาปฏิบัติราชการ) แถมยังมีวันปิดภาคเรียนด้วย อีกทั้งยังมีแหล่งเงินทุนอย่างสหกรณ์ออมทรัพย์ครูให้เป็นหนี้กันอีกด้วย 555
เรียนอะไรถึงได้เป็นครูผู้ช่วย …?
สำหรับผู้ที่กำลังศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายไม่ว่าสายวิทย์หรือสายศิลป์ก็สามารถเข้าเรียนได้ โดยเลือกเรียนต่อที่คณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์ ถ้าใครที่คิดว่าจะไปเรียนคณะอื่นๆอย่าง คณะวิทยาศาสตร์, คณะมนุษยศาสตร์, คณะศิลปศาสตร์ ก็มีทางเลือกให้ศึกษาต่อเพื่อนำวุฒิมาสอบขอรับใบอนุญาตวิชาชีพครูได้
ถ้าหากใครตั้งใจที่จะประกอบอาชีพครู หรือสอบครูผู้ช่วยจริงๆแนะนำว่าเรียนคณะครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์โดยตรงเลยจะดีกว่า จะไม่ต้องไปเสียเวลา เนื่องจากการที่ไปเรียนสาขาวิชาอย่างอื่นมาแล้วจะมาเป็นครูมันไม่ได้เปรียบเหมือนที่คิดนะครับ เพราะเราต้องเรียนและใช้เวลาในการศึกษาเพิ่มหลายปีกว่าจะมีสิทธิไปสอบครูผู้ช่วยได้ ทั้งๆที่เรียนครูเพียง 4 ปีก็มีสิทธิ์ขอสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เมื่อได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูแล้วก็สามารถสมัครสอบรับราชการครูในตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ได้เลย
ครูผู้ช่วย ต่างจากครูอัตราจ้างยังไง…?
ครูผู้ช่วย คืออะไร
มีหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการนี้ไม่เข้าใจคิดว่า ครูผู้ช่วย ไม่ใช่ ข้าราชการครู นั่นคือสิ่งที่เข้าใจผิด เพราะกว่าจะผ่านการ สอบครูผู้ช่วย ทั้งต้องเตรียมสอบครูผู้ช่วย อ่านหนังสือมากมาย จนได้รับตำแหน่งนี้มา จริงๆแล้วมันก็คือตำแหน่งแรกของการรับราชการครูนั่นแหละครับ มีสิทธิได้รับสวัสดิการต่างๆเหมือนข้าราชการครูทุกอย่างเลย เมื่อผู้ที่เป็นครูผู้ช่วยได้ผ่านการประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม เป็นเวลา 2 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะถูกเปลี่ยนตำแหน่งจาก ครูผู้ช่วย เป็น ตำแหน่งครู นั่นเองครับ
ครูอัตราจ้าง คืออะไร
ครูอัตราจ้าง ต่างจากครูผู้ช่วยมากพอสมควร เพราะว่าเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้เป็นข้าราชการนั่นเอง เขายังไม่ได้รับการบรรจุแต่งตั้ง อาจได้เงินเดือนจากงบประมาณท้องถิ่นหรืองบโรงเรียน หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจัดสรรให้นั้นเอง
ครูผู้ช่วย เงินเดือน เท่าไหร่…?
เนื่องจากผู้ที่สอบบรรจุครูผู้ช่วยได้สำเร็จแล้วจะได้รับเงินเริ่มต้นในอัตราดังนี้
- หลักสูตร 4 ปีได้รับเงินเดือน 15,050 บาท
- หลักสูตร 5 ปีได้รับเงินเดือน 15,800 บาท
- หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตที่มีหลักสูตรการศึกษาไม่น้อยกว่า 1 ปีต่อจากวุฒิปริญญาตรี หลักสูตร 4 ปีได้รับเงินเดือน 15,800 บาท
- หลักสูตร 6 ปีได้รับเงินเดือน 17,790 บาท
เรียนจบครูแล้วสอบ ครูผู้ช่วย ได้เลยไหม…?
หลังจากที่เข้าศึกษาในคณะศึกษาศาสตร์หรือครุศาสตร์ แล้วเมื่อจบการศึกษาจะต้องมีการสอบเพื่อ ขอรับใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งรุ่นใหม่ที่เข้าศึกษาปัจจุบันเมื่อจบการศึกษาจะต้องสอบเพื่อผ่านด่านแรก เพื่อรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เพื่อที่จะได้มีสิทธิ์ในการสอบครูผู้ช่วยต่อไป ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทาย น้องๆว่าที่ครูผู้ช่วยพอสมควร ซึ่งวิชาที่จะต้องสอบในประเด็นต่อไปนี้
1. วิชาการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
2. วิชาการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
3. วิชาการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา
ซึ่งรายละเอียด Test Blueprint ผมได้แนบลิ้งไว้ให้แล้ว คลิกที่นี่
อยากเป็น ครูผู้ช่วย ต้องไปสอบที่ไหน….?
หลังจากได้รับในอนุญาตประกอบวิชาชีพแล้ว น้องๆสามารถอ่านหนังสือสอบครูผู้ช่วยได้เลย แต่การสอบเพื่อเป็นครูผู้ช่วย มันมีหลายสังกัดเหมือนกับ ถ้าอยากทราบรายละเอียดสามารถเข้าไปอ่านได้ที่ บทความที่ผมเคยเขียนไว้อย่างละเอียด เรื่อง ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ได้ที่ลิ้งนี้ได้เลยครับ
มีเคล็ดลับอะไรบ้างที่จะช่วยให้การเตรียมสอบ ครูผู้ช่วย ง่ายขึ้น….?
การเตรียมสอบใครที่มีเคล็ดลับและมีเทคนิคดี ย่อมได้เปรียมมากกว่าอย่างแน่นอน ซึ่ง ผมได้เขียน 7 เทคนิค การอ่านหนังสือสอบครูผู้ช่วย เอาไว้ให้แล้วสามารถเข้าไปนำเทคนิคการอ่านหนังสือ สอบครูและนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้เลย แต่ปัญหาสำคัญของบางคนไม่ใช่ว่า ไม่รู้เทคนิคการเตรียมสอบ แต่ว่า เนื้อหาการสอบครูผู้ช่วยมันช่างมากมายเหลือเกิน แถมบางคนยังไม่มีแรงใจในการอ่านหนังสือสอบ ครูผู้ช่วยอ่านไม่ทน แนะนำเข้าไปอ่านบทความ เทคนิคการเตรียมสอบครูผู้ช่วย ตอน การสร้างแรงจูงใจ และบทความ เคล็ดลับแก้การอ่านหนังสือสอบไม่เข้าใจ และอ่านไม่ทน
เราควรเลือกสนามสอบครูผู้ช่วยยังไงดี…?
เลือกสนามสอบครูที่ไหนดี มันคำถามสุดฮิตที่ได้รับการอินบล็อคมาถามบ่อยมากๆคำตอบของผมก็คือ ต้องเลือกสนามที่ได้บรรจุแน่ๆ ง่ายไปไหมสำหรับคำตอบ ผมบอกเลยว่าไม่ง่ายนะ คุณต้องเลือกก่อนว่าจะเอาภาคไหนของประเทศไทย แล้วหลังจากนั้นก็ เลือกจังหวัดที่อยากไปบรรจุมาให้มากที่สุดสัก 5 ลำดับ จึงค่อยมาหาข้อมูลสถิติการเรียกบรรจุ และจำนวนโรงเรียนที่วิชาเอกของเราที่เปิสอนมากๆ เพราะบางจังหวัดที่เราเลือก มันอาจมีโรงเรียนที่รับวิชาเอกที่เราจบมาน้อยมากๆ มันก็อาจทำให้เราเสียโอกาสบรรจุ ครูผู้ช่วย ได้ง่ายๆ
ในการเรียกบรรจุ ข้าราชการครู ในตำแหน่ง ครูผู้ช่วย บางจังหวัดที่เรียกบรรจุเยอะๆ มักจะเป็นจังหวัดที่คนชอบย้ายกลับบ้าน เราก็ต้องวิเคราะห์ให้ออก หรือดูจากประวัติการเรียกเยอะๆก็พอได้นะ เพราะจากสถิติเดิมจังหวัดที่ไม่เคยเรียกบรรจุก็ไม่เรียกอยู่อย่างนั้น และจังหวัดที่เรียกบรรจุแบบถล่มทะลายก็เรียกแบบถล่มทะลายเหมือนเดิม
การเลือกสนามเอาจริงๆ มันก็มีความสำคัญมากพอสมควร เพราะบางคนสอบได้ลำดับ 100 ยังถูกเรียกบรรจุก่อน คนสอบได้ลำดับเลขตัวเดียวเสียด้วยซ้ำ
ข้อสอบเก่าที่เคยออกจริงมีประโยชน์ไหมในการสอบ ครูผู้ช่วย..?
ตอบได้คำเดียวว่า มีประโยชน์มาก เพราะมันคือลายแทงมหาสมบัติสู่การเป็น ครูผู้ช่วยเลยทีเดียว ซึ่งดีกว่าการไปติวจากที่ไหนๆเสียอีก เพราะถ้าเราได้เห็นตัวอย่างข้อสอบจริงจะทำให้เราสามารถโฟกัสเนื้อหาในการอ่านจากที่กว้างมากๆให้แคบลงแม่นยำขึ้น โดยที่ไม่หลงทิศหลงทาง และมีกำลังใจอ่านหนังสือมากขึ้นจริงๆนะ
ทำไมผมถึงบอกอย่างนั้น ก็ถ้าสำหรับคนที่อ่านหนังสือใหม่ๆ ปัญหาที่ผมได้รู้จากผู้ที่อินบล็อคเข้ามาถามผมใน แฟนเพจ บ้านของครู MR.KRON มักจะเป็นสิ่งที่ต้องอ่านบางคนถึงขั้นไปจำมาตรา หรือท่องทุกอย่าง เหมือนที่สำนักติวบางที่พาท่อง อาทิเช่น หมวดของกฎหมายต่างๆ ซึ่งแท้จริงแล้ว ตั้งแต่มีการเปิดสอบมาผม ก็ไม่เห็นเขาจะไปถามมาตรา หรือถามหาหมวดของกฎหมาย นั่นทำให้ น้องๆที่อ่านต้องเสียเวลาในการอ่านหนังสือ เสียพลังงานไปกับท่าพิสดาร คำท่องจำที่ดูเท่ แต่มันใช้การอะไรไม่ได้
แต่ผมขอออกตัวไว้ก่อนนะผมไม่ได้โจมตีใครนะครับ เพราะถ้าคุณจำได้ในสิ่งที่ว่ามาข้างต้นมันก็ดี แต่การสอบครูเรามีเวลาจำกัด และสภาพของเราก็น่าจะเรียกได้ว่า อ่านให้ตรงกับสิ่งที่จะสอบน่าจะดีกว่า พูดแบบไม่โลกสวย อ่านไปสอบ มันต้อง เน้นๆจุดสำคัญ แล้วยิ่งมีข้อสอบจริงปีที่ผ่านมาแล้วยิ่งทำให้อ่านได้ชัดขึ้น
มาถึงตรงนี้ถามว่าผมมีให้ไหม ตัวอย่างข้อสอบจริง ผมบอกเลยว่า ทางบ้านของครู MR.KRON เก็บข้อมูลไว้ทุกปีครับ จะค่อยๆทะยอยลงให้ในเว็บ mrkron.com และแฟนเพจ สำหรับ บทความที่เกี่ยวข้องอย่าง รวมประเด็นข้อสอบครูผู้ช่วยที่เคยออกจริง ท่านสามารถเข้าไปเก็บข้อมูลได้เลยผมลงไว้ให้บางส่วน แม้แต่ตัวอย่างข้อสอบกฎหมายการศึกษาท่านสามารถเข้าไปอ่านได้ใน ลิ้งนี้เลยข้อสอบจริงกฎหมายการศึกษา สำหรับครูผู้ช่วย หรือถ้าหากอยากรู้เทคนิคในการเตรียมสอบครูผู้ช่วยก็สามารถเข้า อ่านบทความในหน้านี้ได้เลย
สำหรับประเด็นความรอบรู้เราก็ลงตัวอย่างให้ในลิ้ง ข้อสอบจริงครูผู้ช่วย
อ่านหนังสือจากรุ่นพี่ที่สอบติดแล้ว หรืออ่านหนังสือฉบับใหม่ดี..?
แน่นอนว่า หลายคนต้องมีความคิดที่ว่าถ้าได้ตำราจากรุ่นพี่ที่เขาสอบติดไปแล้วมาอ่าน ก็จะมีโอกาสสอบติดเช่นเดียวกัน มันอาจเป็นความเชื่อที่ทั้งถูกและผิด กล่าวคือ ถ้าคนที่มีความรู้ในระดับหนึ่งแยกแยะได้ว่าเนื้อหาส่วนไหนล้าหลัง ไม่ทันเหตุการณ์หรือมีการแก้ไขใหม่ แล้วก็สามารถอ่านได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นคนที่พึ่งเริ่มต้นอ่านใหม่ นั่นคือ ปัญหาใหญ่เราจะแยกไม่ได้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ต้องขีดฆ่าทิ้งไป สิ่งไหนที่อ่านได้ มันจะเกิดความสับสนและล้มเหลวในการสอบครูผู้ช่วยแน่นอน
เราต้องตรวจสอบว่า มีคนให้คำแนะนำไหม หรือเรามีองค์ความรู้พอที่จะแยกข้อมูลที่ล้าสมัยกับข้อมูลใหม่ๆได้หรือไม่ แนะนำว่า หาหนังสือใหม่ๆ มาหลายๆแหล่งแล้วอ่านให้เข้าใจให้ดีก่อน แล้วจึงค่อยไปดูหนังสือหรือสรุปที่ได้มาจากรุ่นพี่ก็จะเป็นการเสริมความรู้ได้ดีกว่า เพราะการใช้ตำราเก่าแบบไม่รู้ที่มาของการปรับปรุงเนื้อหา อาจเป็นผลเสียมากกว่าผลดีนั่นเอง
ฝึกทำข้อสอบครูผู้ช่วยได้ที่ไหนบ้าง….?
ปัจจุบันเป็นโลกสมัยใหม่แล้ว นอกจากการฝึกจากหนังสือแล้วยังมีข้อสอบมากมายในอินเตอร์เน็ต หรือแม้แต่ทางเว็บไซต์แห่งนี้ของเรา ซึ่งก็คือ บ้านของครู บางครั้งเราก็ไม่ได้สะดวกในการพกหนังสือหรือเอกสารสำหรับอ่านสอบครู เมื่อมีเวลาว่างก็อยากอ่านทบทวนจะทำยังไง คุณสามารถเข้าไปดูข้อสอบที่ทางทีมงานทะยอยอัพโหลดลงได้เลย ตามหมวดหมู่ เมนูด้านบนของเว็บไซต์เราได้เลย หรือหากต้องการสมัครสมาชิกทำข้อสอบแบบ VIP ก็สามารถสมัครได้ที่ไลน์ครับ
ติวสอบครูผู้ช่วยกับไม่ติวอะไรดีกว่ากัน…?
ข้อดีของการติวสอบครูผู้ช่วย
คงมีคำถามในใจหลายคน เพราะคงเคยได้ยินว่าหลายคนไม่เคยติวสอบสอบ ข้าราชการครู เลยแม้แต่ครั้งเดียวแต่ทำไมยังสอบติด แถมได้อันดับดีๆด้วย จริงๆแล้วการติวถ้าเรามีเงินไม่ลำบากก็สามารถเข้ารับฟังการอบรม หรือการติวสอบครูผู้ช่วยได้ เพราะจะทำให้เราเข้าถึงเนื้อหาได้เร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากบางคนจำเป็นจริงๆในช่วงเริ่มต้น เพราะไม่รู้ว่าเขาสอบอะไรเลย ไม่รู้จะเลือกหนังสือเล่มไหน คือทุกอย่างมันมืดมนไปหมด การติวอาจเป็นการเปิดโลกของเราในการเตรียมสอบครูผู้ช่วยได้เป็นอย่างดี
ข้อระวังของการ ติวสอบครูผู้ช่วย
สิ่งที่ต้องระวังก็คือ เราอาจจะเข้าใจผิดว่าไม่ต้องอ่านหนังสือ หรือฝึกทำข้อสอบเลยเพียงแค่สมัครคอร์สการ ติวสอบครูผู้ช่วย เพียง 2-3 วัน ออกมาจากห้องติวก็สามารถไปสอบได้เลย หากสำนักไหนโฆษณาชวนเชื่อแบบนี้ ท่านจงระวังไว้เลยว่า มันไม่จริงหรอก การติวจะช่วยให้ท่านเปิดโลกการอ่านหนังสือสอบในการอ่านครั้งแรกและท่านต้องกลับมาอ่านทบทวนใช้เวลาอีกพอสมควร เพราะไม่มีทางอัดเนื้อหาแล้วจดจำได้หมดภายในระยะเวลาอันสั้น
และการติวก่อนสอบก็เป็นการทบทวนเนื้อหา ครั้งสุดท้ายก่อนลงสนามจริงจากการที่ท่านอ่านหนังสือมาสักระยะหนึ่งแล้ว เพราะเหตุนี้การเตรียมตัวอ่านหนังสือยังต้องใช้เวลา มันไม่มีทางลัดหรอกครับ นอกจากว่าโดยพื้นฐานแล้วคุณเป็นคนที่ฉลาด เก่งมากแต่แรก ซึ่งนานๆผมจะเจอแล้วคุณกล้าเสี่ยงไหมว่าตัวเองจะเป็นคนประเภทนี้
ระหว่างอ่านเนื้อหากับทำข้อสอบครูผู้ช่วย ให้ความสำคัญกับอันไหนมากกว่ากัน…?
ทั้งสองอย่างมันควรจะต้องสัมพันธ์กันนั่นแหละถึงจะดี แต่ถ้าใครที่อ่านเนื้อหาแล้วยังไงก็ไม่เข้าใจ แถมยังจำไม่ได้ เหมือนไม่ได้อะไรเลย ก็แนะนำว่าลองฝึกทำข้อสอบแล้วก็ ย้อนกลับมาอ่านเนื้อหาว่าทำไมถึงตอบข้อนี้ หรือเราเลือกคำตอบข้อนี้ถูกหรือผิด เพราะอะไร เราต้องมีเหตุผลประกอบเสมอสามารถอธิบายได้จากการกลับไปอ่านเนื้อหา เฉพาะส่วนนั้นๆ
การที่อ่านหนังสือในลักษณะนี้ก็จะช่วยให้คนที่อ่านหนังสือไม่ค่อยรู้จุดสำคัญอ่านได้ง่ายขึ้น ไม่เชื่อก็ลองดู เมื่อได้ลองทำข้อสอบฝึกวิเคราะห์ข้อสอบมากพอ สุดท้ายเอาจริงๆแล้วกรอบที่จะสอบมันก็หมดเป็นเช่นกัน ถ้าเราขยันพอ ไม่ใช่ว่าอ่านแค่ สิบข้อแล้วคิดว่าตัวเองเก่งจนสามารถสอบชนะได้สบาย มันคงเป็นไปไม่ได้จริงไหม
เป็นครูสอนกี่ปีถึงสามารถขอย้ายได้..?
ครูในสังกัด สพฐ. ต้องเป็นครูผู้ช่วยก่อน 2 ปีผ่านประเมินความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม และต้องเป็นครูอีก 2 ปีรวมเป็น 4 ปีถึงทำเรื่องขอย้ายได้
อ้างอิง
www.kroobannok.com/63653
www.thairath.co.th/lifestyle/life/2013232
www.kruupdate.com/28832/
otepc.go.th/th/content_page/item/2968-14-2563.html
