5 จุดเน้นครูผู้ช่วยที่ควรรู้เกี่ยวกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฯ
- Advertisement -

สวัสดีสมาชิกบ้านของครู ที่รักทุกท่าน ผมได้ทำการสรุปเนื้อหาที่เป็น 5 จุดเน้นสอบครูผู้ช่วย พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2542 หลายคนที่กำลังจะสอบรับราชการในตำแหน่งครูผู้ช่วย สำหรับน้องๆที่จบการศึกษาใหม่ยังไม่เคยสอบในสนามจริง อาจกังวลว่ากฎหมายเจ้าตัว พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2542 มันจะออกข้อสอบลึกแค่ไหน

จริงๆแล้ว ไม่กี่จุดเท่านั้นที่มักจะออกซ้ำๆ ถ้าคุณรู้แล้วจะได้โฟกัสได้ถูกต้องจะช่วยลดเวลาในการอ่านหนังสือ เพราะหลายคนอ่านวนไปวนมาได้แต่น้ำ หรือแม้แต่ไปติวในที่ต่างๆก็ยังไม่สามารถจับในความได้

ลองอ่านสรุปจุดเน้น 5 จุดนี้ถ้าเข้าใจและจำได้แล้วก็ไปขยายอ่านฉบับหลังจากนี้รับรองเจอข้อสอบ แทบจะยิ้มเลย หลังจากอ่านสรุปที่หน้านี้จบแล้วอย่าลืมแวะไปทำ

ข้อสอบ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2542 ชุดที่ 1
ข้อสอบ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2542 ชุดที่ 2
ข้อสอบ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2542 ชุดที่ 3
ข้อสอบ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2542 ชุดที่ 4

แต่ก่อนจะไปทำข้อสอบเชิญอ่านสรุปด้านล่างได้เลยครับ

จุดเน้นที่ 1 นิยามศัพท์เฉพาะ

1) การศึกษา คือ ***ออกข้อสอบบ่อย
     ● กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม

2) การศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ ***ออกข้อสอบบ่อย 
     ● การศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา

3) การศึกษาตลอดชีวิต(Education for all) คือ **ออกข้อสอบบ่อย
    ● การศึกษาที่เกิดจาก การผสม ผสานระหว่าง

       – การศึกษาในระบบ
       – การศึกษานอกระบบ
       – การศึกษาตามอัธยาศัย

4) ผู้สอน คือ
     ● ครู และคณาจารย์ ในสถานศึกษาระดับต่างๆ

5) ครู  คือ
     ● บุคลากรวิชาชีพ ซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่าง ๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน

7) คณาจารย์ คือ 
     ● บุคลากร ซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัยในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาของรัฐและเอกชน

8) บุคลากรทางการศึกษา คือ
    ● ผู้บริหารสถานศึกษา
    ● ผู้บริหารการศึกษา
    ● รวมทั้งผู้สนับสนุนการศึกษา ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ให้บริการ หรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่างๆ

9) ผู้บริหารสถานศึกษา คือ 
     ● บุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาแต่ละแห่ง ทั้งของรัฐและเอกชน

10) ผู้บริหารการศึกษา คือ 
     ● บุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารการศึกษานอกสถานศึกษาตั้งแต่ระดับเขตพื้นที่การศึกษาขึ้นไป

11) สถานศึกษา คือ **ข้อสอบเก่า
     ● สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน ศูนย์การเรียน วิทยาลัย สถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชน ที่มีอำนาจหน้าที่หรือมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา



✎จุดเน้นที่ 2 ความมุ่งหมายและหลักการ

1. ความมุ่งหมาย( มาตรา 6 )

● การจัดการศึกษา ต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็น มนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจสติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

2. กระบวนการเรียนรู้ ( มาตรา 7 )

● ปลูกฝังจิตสำนึก   รู้จักรักษาและส่งเสริมสิทธิหน้าที่  รักษาผลประโยชน์ส่วนรวม อนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ  มีความสามารถในการประกอบอาชีพ มีความริเริ่มสร้างสรรค์

3. การจัดการศึกษาให้ยึดหลัก ดังนี้ (มาตรา 8 ) **ออกข้อสอบบ่อยครั้ง

(1) เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
(2) ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
(3) การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

เทคนิคจำ = ตลอด-ร่วม-พัฒนาสาระ


✎จุดเน้นที่ 3 สิทธิ และหน้าที่ทางการศึกษา

1. สิทธิทางการศึกษา (มาตรา 10)

▶ สำหรับ บุคคลทั่วไป

● รัฐต้องจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า 12 ปี

● จัดอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย

▶ การจัดการศึกษาสำหรับ บุคคลซึ่งมีความบกพร่อง

● ต้องจัดให้มีสิทธิ และโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษ

▶ การศึกษาสำหรับ คนพิการ

● ให้จัดตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

▶ การจัดการศึกษาสำหรับ บุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ

● ต้องจัดด้วยรูปแบบที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงความสามารถของบุคคลนั้น

2. บิดา มารดา หรือผู้ปกครองมีหน้าที่จัดการศึกษา คือ

– จัดให้บุตรหรือบุคคลซึ่งอยู่ในความดูแล

– จัดให้ได้รับการศึกษาภาคบังคับ

– ส่วนการศึกษานอกเหนือจากการศึกษาภาคบังคับจัดตามความพร้อมของครอบครัว

3. บิดา มารดา หรือผู้ปกครองมีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ ดังต่อไปนี้

1) การสนับสนุนจากรัฐ ให้มีความรู้ความสามารถในการอบรมเลี้ยงดู และการให้การศึกษาแก่บุตรหรือบุคคลซึ่งอยู่ในความดูแล

2) เงินอุดหนุนจากรัฐสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของบุตรหรือบุคคลซึ่งอยู่ในความดูแลที่ครอบครัวจัดให้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายกำหนด

3) การลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายการศึกษาตามที่กฎหมายกำหนด



✎ จุดเน้นที่ 4 ระบบการศึกษา

1. รูปแบบการจัดการศึกษา มี 3 รูปแบบ (มาตรา 15) 

      1) การศึกษาในระบบ (Formal education) มีเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่ แน่นอน

      2) การศึกษานอกระบบ (Non-formal education) มีเงื่อนไขสำคัญของการสำเร็จการศึกษาความ ยืดหยุ่น  เนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของบุคคลแต่ละกลุ่ม

      3) การศึกษาตามอัธยาศัย (Informal education) ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพความพร้อม และโอกาส

      *****สถานศึกษาอาจจัดการศึกษาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งหรือทั้งสามรูปแบบก็ได้

2. การศึกษาในระบบและนอกระบบ แบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ

▶ การศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ การศึกษาไม่น้อยกว่า 12 ปี ( ป.1-ม.6 ) ก่อนระดับอุดมศึกษา แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่

               1) ระดับก่อนประถมศึกษา 

               2) ระดับประถมศึกษา

               3) ระดับมัธยมศึกษา

                     – ประเภทสายสามัญ คือ  มัธยมตอนต้น/มัธยมตอนปลาย

                     – ประเภทอาชีวศึกษา คือ ปวช.

▶ การศึกษาระดับอุดมศึกษา มี 2 ระดับ คือ

1) ระดับต่ำกว่าปริญญาตรี(อนุปริญญา)

2) ระดับปริญญา(ป.ตรี, ป.โท, ป.เอก)

การศึกษาภาคบังคับ ***ออกข้อสอบบ่อย

● การศึกษาภาคบังคับ จำนวน 9 ปี

● ให้เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่ 7 เข้าเรียนใน สถานศึกษาขั้นพื้นฐานจนอายุย่างเข้าปีที่ 16 เว้นแต่สอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับ***

การศึกษาภาคบังคับ คือ ย่าง 7 ย่าง 16 จำนวน 9 ปี

การนับอายุเข้าเรียน คือ พ.ศ.ที่เข้าเรียน = ปี พ.ศ.ที่เกิด +7

✎ จุดเน้นที่ 5 การประกันคุณภาพการศึกษา

1) การประกันคุณภาพภายใน 

● จัดการประกันคุณภาพภายในโดยหน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษา

● จัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อ  หน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา และเพื่อรองรับการประกันคุณภาพภายนอก

2) การประกันคุณภาพภายนอก

● จัดอย่างน้อย 1 ครั้งในทุก 5 ปีนับตั้งแต่การประเมินครั้งสุดท้ายโดย สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)

>> สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) มีฐานะเป็นองค์การมหาชน ทำหน้าที่พัฒนาเกณฑ์ วิธีการประเมินคุณภาพภายนอก และทำการประเมินผลการจัดการศึกษา ที่มิใช่การจัดการอุดมศึกษาเพื่อให้มีการตรวจสอบคุณภาพของสถานศึกษา โดยคำนึงถึงความมุ่งหมาย หลักการ และแนวการจัดการศึกษาในแต่ละระดับ


บทสรุป

เนื้อหาที่มากมายในกฎหมายฉบับนี้จริงๆแล้วเวลามันออกข้อสอบมันก็ไม่ได้ถามอะไรพิสดารนะครับ ถามแต่ส่วนที่เป็นพระเอกของมันส่วนหลักๆที่สำคัญเท่านั้น หลายคนเสียเวลาไปนั่งท่องรายละเอียดย่อยจนไม่มีเวลาไปอ่านวิชาที่ต้องอ่านรายละเอียด เช่นวิชาเอก วิชาการศึกษา เป็นต้น

- Advertisement -