6 จุดเน้นครูผู้ช่วย เรื่อง พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546
6 จุดเน้นครูผู้ช่วย เรื่อง พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546

วันนี้ทาง บ้านของครู MR.KRON ได้สรุปจุดเน้น กฎหมายระเบียบกระทรวงศึกษาธิการให้ท่านได้อ่านเป็นประเด็นสำคัญ ที่เราได้เน้นไว้ให้ท่านแล้ว ขอบคุณที่ติดตามกันตลอดมาขอให้ได้บรรจุเร็ววัน อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆด้วยจ้า

✎ ครูผู้ช่วยประเด็นที่ 1 ข้อมูลเบื้องต้นที่ควรทราบ

1. จัดระเบียบราชการกระทรวงศึกษาธิการ(ออกข้อสอบประจำ)

   (1) ระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง
(2) ระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา
(3) ระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญา ที่เป็นนิติบุคคลแต่ไม่รวมถึงการจัดการศึกษาที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงอื่นที่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ

2. การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ให้คำนึงถึง           

● คุณวุฒิ
● ประสบการณ์
● มาตรฐานวิชาชีพ
● ลักษณะหน้าที่ความรับผิดชอบ
● คุณภาพของงาน

3. ผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ 2547 คือ

● รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ


✎ ครูผู้ช่วยประเด็นที่ 2 การจัดระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง

1. การแบ่งส่วนราชการในส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการ

การแบ่งส่วนราชการในส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการ
หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
1) สำนักงานรัฐมนตรี	ไม่เป็นนิติบุคคล
2) สำนักงานปลัดกระทรวง	มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นกรม
3) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา	
4) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน	
5) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา	
**การแบ่งส่วนราชการภายในส่วนราชการ ให้ออกเป็นกฎกระทรวง

2. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้คณะกรรมการสภาการศึกษา

มีกรรมการ จำนวน 41 คน
● มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน

3. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(จำนวนไม่เกิน 27 คน )

● องค์ประกอบของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(จำนวนไม่เกิน 27 คน มีผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธาน) ประกอบด้วย

– กรรมการโดยตำแหน่งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
– ผู้แทนองค์กรเอกชน
– ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
– ผู้แทนองค์กรวิชาชีพ
– กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่าจำนวนกรรมการประเภทอื่นรวมกัน

4. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จะจัดการศึกษาแทน หากเขตพื้นที่การศึกษา หรืออุดมศึกษาระดับที่ต่ำกว่าปริญญา จัดการศึกษาไม่ได้หรือไม่พร้อมจัดการศึกษาต่อไปนี้

1) การศึกษาสำหรับบุคคลที่มีความบกพร่อง
2) การศึกษานอกระบบหรือการศึกษาตามอัธยาศัย
3) การศึกษาสำหรับบุคคลที่มีความสามารถพิเศษ
4) การศึกษาทางไกล และการจัดการศึกษาที่ให้บริการในหลายเขตพื้นที่การศึกษา
5) การจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญา แต่ไม่รวมถึงสถาบันวิทยาลัยชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันวิทยาลัยชุมชน


✎ ครูผู้ช่วยประเด็นที่ 3 การจัดระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา

1.การบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ยึดเขตพื้นที่การศึกษาโดยคำนึงถึง(ออกข้อสอบประจำ)

1) ระดับของการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2) จำนวนสถานศึกษา
3) จำนวนประชากร
4) วัฒนธรรมและความเหมาะสมด้านอื่นด้วย

>>เว้นแต่การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามกฎหมายว่าด้วยการอาชีวศึกษา

2.ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยคำแนะนำของสภาการศึกษา

– มีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดเขตพื้นที่การศึกษา เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

3. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษากำหนดให้สถานศึกษาแห่งนั้นอยู่ในเขตพื้นที่การศึกษาใด

– ให้ยึดระดับการศึกษาของสถานศึกษานั้นเป็นสำคัญ

– ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

4. ให้จัดระเบียบบริหารราชการของเขตพื้นที่การศึกษา ดังนี้

1) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

2) สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน

>>การแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้จัดทำเป็น

– ประกาศกระทรวง โดยคำแนะนำของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

>> การแบ่งส่วนราชการภายใน สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นไปตาม

– ระเบียบที่คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา

>>สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามเฉพาะที่เป็นโรงเรียนมีฐานะเป็นนิติบุคคล เมื่อมีการยุบเลิกสถานศึกษา

-ให้ความเป็นนิติบุคคลสิ้นสุดลง

>> คณะกรรมการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (โอนเป็น กศจ.)และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มีอำนาจหน้าที่

อำนาจหน้าที่
1.การกำกับดูแล จัดตั้ง ยุบ รวม หรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่การศึกษา
2.ประสาน ส่งเสริม และสนับสนุนสถานศึกษาเอกชนในเขตพื้นที่การศึกษา
3.ประสานและส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สามารถจัดการศึกษาสอดคล้องกับนโยบายและมาตรฐานการศึกษา
4.ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาของบุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่นที่จัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลายในเขตพื้นที่การศึกษา

5. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  ที่ 19/2560 

>> เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ กำหนดให้ยกเลิกการมีคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาและโอนอำนาจไปเป็นของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)จำนวนไม่เกิน 15 คน

 – ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ

6.คณะกรรมการสถานศึกษา

คณะกรรมการสถานศึกษา ประกอบด้วย
  1) ผู้แทนผู้ปกครอง  ประธาน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ
  2) ผู้แทนครู  *ข้อควรระวัง  จำไม่ว่า ไม่มีองค์กรเอกชน
  3) ผู้แทนองค์กรชุมชน 
  4) ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 
  5) ผู้แทนศิษย์เก่าของสถานศึกษา  
  6) ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ 
  7) ผู้แทนองค์กรศาสนาอื่นในพื้นที่ 
  8) ผู้ทรงคุณวุฒิ

>> ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นกรรมการและเลขานุการของคณะกรรมการสถานศึกษา 

>> ไม่ใช้บังคับแก่สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยและศูนย์การเรียน

>> สถานศึกษาขนาดเล็ก (ไม่เกิน 300)  ให้มี กรรมการสถานศึกษา 9 คน 

>> สถานศึกษาขนาดใหญ่ (301 ขึ้นไป) ให้มี กรรมการสถานศึกษา 15 คน

– ผู้ทรงคุณวุฒิ โรงเรียนขนาดใหญ่มีได้ 6 คน โรงเรียนเล็กมีได้ 1 คน

– ผู้แทนองค์กรศาสนาอื่นในพื้นที่/ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์  โรงเรียนขนาดใหญ่มีได้ 2 คนโรงเรียนเล็กมีได้ 1 คน

7.คณะกรรมการสถานศึกษา มีอำนาจและหน้า ที่ดังต่อไปนี้

(1) กำกับ ดูแลการบริหารงานบุคคลในสถานศึกษา

(2) เสนอความต้องการจำนวนและอัตราตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาเพื่อเสนอ กศจ. การศึกษาพิจารณา

(3) ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาต่อผู้บริหารสถานศึกษา

(4) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ กฎหมายอื่น หรือตามที่ กศจ.มอบหมาย

>>สถานศึกษา จะให้มีรองผู้อำนวยการช่วยปฏิบัติราชการก็ได้

>>สถานศึกษา ใดที่ยังไม่สามารถปฏิบัติงานบางประการที่ได้รับมอบหมายได้ อาจขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่สังกัดเป็นผู้รับผิดชอบปฏิบัติงานเฉพาะอย่าง แทนเป็นการชั่วคราวได้


 ครูผู้ช่วยประเด็นที่ 4 การปฏิบัติราชการแทน

1. ให้กระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาไปยัง คณะกรรมการเขตพื้นที่

การศึกษา (ยุบไปเป็น คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด : กศจ.)และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาโดยตรง คือ  

– ด้านวิชาการ   ด้านงบประมาณ    ด้านการบริหารงานบุคคล   ด้านการบริหารทั่วไป

*****จำว่า  วิ-มาณ-คล-ทั่ว

2. หลักการมอบอำนาจในการสั่ง การอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ

– ผู้ดำรงตำแหน่งนั้นอาจมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิบัติราชการแทนได้

ให้คำนึงถึงความเป็นอิสระ การบริหารงานที่คล่องตัวในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาและของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

การมอบอำนาจปฏิบัติราชการแทน
1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อาจมอบอำนาจให้ตามลำดับ
 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
 ปลัดกระทรวง
 เลขาธิการ
 หัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่าอธิการบดี
 ผู้ว่าราชการจังหวัด
2 ปลัดกระทรวง  อาจมอบอำนาจให้ตามลำดับดังต่อไปนี้
  รองปลัดกระทรวง
  ผู้ช่วยปลัดกระทรวง
  เลขาธิการ
  หัวหน้าส่วนราชการซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่าอธิการบดี
  ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
  ผู้อำนวยการสถานศึกษา
  ผู้ว่าราชการจังหวัด
3 เลขาธิการ อาจมอบอำนาจให้ตามลำดับดังต่อไปนี้
  รองเลขาธิการ
ผู้ช่วยเลขาธิการ
หัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่าอธิการบดี
ผู้อำนวยการสำนัก
ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานหรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ผู้ว่าราชการจังหวัด
4 ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา อาจมอบอำนาจให้ตามลำดับดังต่อไปนี้
ข้าราชการในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ผู้อำนวยการสถานศึกษา  
5 ผู้อำนวยการสถานศึกษาอาจมอบอำนาจให้ตามลำดับดังต่อไปนี้
ข้าราชการในสถานศึกษา
**การมอบอำนาจให้ทำเป็นหนังสือ**

3. การมอบอำนาจโดยชอบแล้ว ผู้รับมีหน้าที่ต้องรับมอบอำนาจนั้น

– จะมอบให้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นต่อไปไม่ได้

4. กรณียกเว้น การมอบอำนาจให้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านอาจจะมอบอำนาจต่อไปได้ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินก็ได้

5. การมอบอำนาจของ ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้แก่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด

– ให้แจ้งให้ผู้มอบอำนาจชั้นต้นทราบ

6. การมอบอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ให้แก่บุคคลอื่น นอกจาก รองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด

– จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากผู้มอบอำนาจชั้นต้นแล้ว

7. ในการมอบอำนาจ ให้ผู้มอบอำนาจพิจารณาถึงการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ความรวดเร็วในการปฏิบัติราชการ การกระจายความรับผิดชอบตามสภาพ ของตำแหน่งของผู้รับมอบอำนาจและ ผู้รับมอบอำนาจต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบอำนาจตาม วัตถุประสงค์ของการมอบอำนาจดังกล่าว

8. เมื่อได้มอบแล้ว ผู้มอบอำนาจ มีหน้าที่กำกับติดตามผลการปฏิบัติราชการ ของผู้รับ และให้มีอำนาจแนะนำและแก้ไขการปฏิบัติราชการของผู้รับมอบอำนาจได้


✎ ครูผู้ช่วยประเด็นที่ 5 การรักษาราชการแทน

1. กรณีไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งดังต่อไปนี้ให้สั่งการมอบหมายรักษาการแทนตามลำดับ

ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง
-> รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.)     
– รักษาราชการแทน รมว.ศธ. คือ
1) รมช.ศธ
2)ครม.มอบหมาย รมต.อื่น***  
-> เลขานุการรัฐมนตรี      
– รักษาราชการแทน เลขานุการรมต.คือ
1) ผู้ช่วยเลขานุการรมต.
2) ข้าราชการในกระทรวง***  
-> ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ      
– รักษาราชการแทน ปลัดศธ. คือ
1)รองปลัด
2) ข้าราชการในกระทรวงไม่ต่ำกว่าเลขาธิการ ***  
-> เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(เลขาธิการ กพฐ.)
– รักษาราชการแทน คือ
1) รองเลขาธิการ
2) ข้าราชการในกระทรวงเทียบเท่ารองเลขาธิการ ***  
-> ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(ผอ.สพท.)     
– รักษาราชการแทน ผอ.สพท. คือ 1) รองผอ.สพท. 
2) ข้าราชการในเขตไม่ต่ำกว่า ผอ.รร. ***  
-> ผู้อำนวยการสถานศึกษา (ผอ.สถานศึกษา)****     
รักษาราชการในตำแหน่ง ผอ.สถานศึกษา คือ
1) รองผอ.สถานศึกษา
2) ข้าราชการในสถานศึกษา***

->คำสั่ง หัวหน้าคสช. ที่ 16/2560 โดยมาตรา 44  ให้ใช้คำว่ารักษาราชการในตำแหน่ง
ซึ่งเปลี่ยนจากคำว่า รักษาราชการแทน  นั่นเอง(มีผลเฉพาะตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา)  

2. ผู้รักษาราชการแทนมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ซึ่งตนแทน

3. ผู้ปฏิบัติราชการแทนมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ซึ่งมอบหมายหรือมอบอำนาจ


✎ครูผู้ช่วยประเด็นที่ 6 ข้อมูลที่ควรทราบเพิ่มเติม

1. ข้อมูลเบื้องต้น

– เกิดจากเกิดจากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2542 หมวด 5 มาตรา 32

– ฉบับที่ 1 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา   6 ก.ค. 2546 บังคับใช้วันถัดจากวันประกาศ

-ฉบับที่ 2 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา   22 ธ.ค. 2553 บังคับใช้วันถัดจากวันประกาศ

ฉบับที่ 3 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 1 พ.ค. 2562 บังคับใช้วันถัดจากวันประกาศ

2. ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ เหตุผลการประกาศ และแก้ไข

– ฉบับที่ 1/2546  คือ  ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

– ฉบับที่ 2/2553 คือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

– ฉบับที่ 3/2553 คือ พลเอก  ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

3.พระราชบัญญัตินี้มีจำนวน 5 หมวด 82 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล

-หมวด 1  การจัดระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง

-หมวด 2 การจัดระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา

-หมวด 3 การจัดระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล (ไม่เคยออกข้อสอบของครูผู้ช่วย)

-หมวด 4 การปฏิบัติราชการแทน

-หมวด 5 การรักษาราชการแทน


หากคุณร่วมแลกเปลี่ยนเรามีกลุ่มตีแตกข้อสอบครูผู้ช่วย มีความลับแนวข้อสอบดีๆ ให้ฟรี

ตีแตก ข้อสอบครูผู้ช่วย MR.KRON

▶ ช่องทางการติดตาม

เพิ่มเพื่อน

📌 facebook บ้านของครู MR.KRON
📌 YOUTUBE บ้านของครู MR.KRON
📌 Line official